หมวดหมู่: สิ่งแวดล้อม

Solarcell


ตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคครัวเรือน ร่วมมือส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

รู้ไหมว่า คนที่ติด Solar Cell ที่บ้าน คุณช่วยลดโลกร้อนได้ แถมได้คะแนน The 1 มาใช้ฟรีๆ

ตลาดคาร์บอนเครดิตครัวเรือนที่ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีใครทำ แต่มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชนทำให้เห็นแล้วด้วยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสร้างมูลค่า สร้างอนาคตสะอาด ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับ ภาคครัวเรือนที่ติดตั้ง Solar cell เพื่อส่งเสริมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสามารถนำ Carbon Credit ที่ผลิตได้จาก Solar cell และได้รับการรับรองมาตรฐาน T-VER ของประเทศไทย มาแลกเปลี่ยนเป็นคะแนน The 1 ของเครือเซ็นทรัล ฟรี นำร่องโดยโครงการบ้านพลังงานเป็นศูนย์ของเสนา ตั้งเป้าหมายไว้ไม่น้อยกว่า 300 ครัวเรือน หรือ คะแนน The 1 มากกว่า 4 ล้านคะแนน

ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชนแถลงข่าวประชาสัมพันธ์โครงการตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ ภายใต้งบประมาณหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ,กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคครัวเรือน ความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการเปิดรับพลังงานสะอาด

และการมีส่วนร่วมในโครงการ ตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ ซึ่งจะนำไปสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อนาคตสะอาดและความยั่งยืนในที่สุด ณ ห้อง Lotus 3-4 Centara Grand & Bangkok Convention Centre at CentralWorld

Solarcell

ศาสตราจารย์ ดร.อาภาณี เหลืองนฤมิตชัย ประธานคณะอนุกรรมการแผนงานกลุ่มพลังงาน เคมีและวัสดุชีวภาพ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กล่าวว่าในฐานะหน่วยงานที่ให้ทุนโครงการ วิจัยและพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในการสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

ภายใต้แผนงานพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการใช้ประโยชน์พลังงานสะอาด พัฒนาระบบเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-GreenEconomy: BCG) ในด้านพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน วัสดุชีวภาพ และเคมีชีวภาพให้เป็นระบบเศรษฐกิจมูลค่าสูง มีความยั่งยืนและเพิ่มรายได้ของประเทศพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วย

เศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้มีความสามารถในการแข่งขัน และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนพร้อมสู่อนาคตโดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม และดำเนินการร่วมกับการทำแพลตฟอร์มตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ โดยสามารถติดตามข้อมูลการผลิตพลังงานจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

รวมถึงสามารถนำก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงได้แลกเปลี่ยนกับสินค้าหรือบริการของภาคธุรกิจที่เข้าร่วม รวมถึงการจัดทำระบบนิเวศของแพลตฟอร์มตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้แพลตฟอร์ม เช่น ภาคครัวเรือนต้องการผลตอบแทนจากการใช้พลังงาน ภาคธุรกิจต้องการปริมาณคาร์บอน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในการดำเนินธุรกิจโดยมีอัตราแลกเปลี่ยนที่จูงใจในการทำธุรกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างคุณค่าสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน กล่าวว่า โครงการ"วิจัยและพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ในการสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ "มีปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินโครงการเนื่องจาก นโยบายด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ซึ่งตอบรับกับความร่วมมือในการลดภาวะโลกร้อนของนานาประเทศ การสนับสนุนตลาดคาร์บอนทั้งในระดับนานาชาติและระดับประเทศ การเติบโตของจำนวนผู้ใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด และปัจจุบันมีการนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ในภาคธุรกิจ

โดยในโครงการจะพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนภาคสมัครใจ ด้วยการจัดทำแพลตฟอร์มในการติดตามการผลิตพลังงานทดแทนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะมุ่งเน้นครัวเรือนที่ติดตั้ง Solar Cell ก่อน เนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้งานมากและมีนโยบายจากภาครัฐที่ชัดเจน ทั้งนี้แพลตฟอร์มที่จะพัฒนาขึ้นจะสามารถแลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกที่สามารถลดได้ไปเป็นสินค้าหรือบริการกับภาคธุรกิจที่เข้าร่วม

โดยภาคธุรกิจสามารถนำคาร์บอนที่ได้เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน และการดำเนินการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero emissions) ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องดังนี้ 1 ภาคครัวเรือน มีช่องทางการสร้างรายได้จากการใช้พลังงานสะอาด หรือสามารถแลกเป็นสินค้าและบริการจากภาคธุรกิจที่เข้าร่วมผ่านแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้น

ทั้งยังสร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้พลังงานสะอาดในการเป็นส่วนหนึ่งของการลดภาวะโลกร้อน 2) ภาคธุรกิจ สามารถดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนในส่วนการใช้พลังงานสะอาด โดยการซื้อคาร์บอนเครดิต หรือแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการให้กับครัวเรือนที่เข้าร่วมผ่านแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมภาพลักษณ์ของการดำเนินธุรกิจเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มยอดขาย

สร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระยะยาว 3) ประเทศไทย สามารถพัฒนาตลาดคาร์บอนครัวเรือนแบบภาคสมัครใจให้เกิดขึ้นจริงในประเทศ

ซึ่งจะส่งผลให้เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศเป็นไปตามเป้าหมาย โดยจะส่งผลให้ทั้งประชาชนและภาคธุรกิจหันมาใช้พลังงานสะอาดรวมถึงการดำเนินการด้านอื่นที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้มากขึ้น

และยังสร้างผลประโยชน์ร่วมในหลายด้าน เช่น การบรรเทาผลกระทบของมลพิษทางอากาศ, การรักษามั่นคงทางพลังงาน, นวัตกรรมเทคโนโลยี การลดต้นทุนทางพลังงาน การจ้างงาน และลดการย้ายถิ่นฐานเข้าเมือง เป็นต้น ส่งผลให้ประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวหน้าและยั่งยืนต่อไป

รศ.วงกต วงศ์อภัย ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นหน่วยงานที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประเมินภายนอกสำหรับโครงการภาคสมัครใจของประเทศไทย ได้ดำเนินการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจก ตามมาตรฐานต่าง เช่น Thailand Voluntary Emission Reduction Program (T-VER) หรือที่รู้จักในวงกว้างว่า คาร์บอนเครดิต ที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. กำหนด

โดยมีขั้นตอนการดำเนินการเบื้องต้น 6 ขั้นตอน คือ (1) การจัดทำเอกสารโครงการ (2) การตรวจสอบเอกสาร หรือ Validation (3) การขึ้นทะเบียนโครงการSolar ดังกล่าวกับ อบก. (4) การดำเนินการโครงการพร้อมการตรวจวัดต่างๆ (5) การจัดทำเอกสารขอทวนสอบผลคาร์บอนเครดิตที่ได้ ก่อนที่จะนำไป (6) ยื่นขอรับรองคาร์บอนเครดิตจากทาง อบก.ในท้ายที่สุด

ทั้งนี้ การตรวจสอบเอกสารและทวนสอบต่างๆถือเป็นความสำคัญและจำเป็นที่ประเทศต้องการ รวมถึงเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศในอนาคต

คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ ตำแหน่ง กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล ณ ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีความต้องการคาร์บอนเครดิตเป็นอย่างมาก และในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูง จากกระแสความตื่นตัวและความมุ่งมั่นทั้งในระดับประเทศและระดับองค์กรที่มีการตั้งเป้าหมายที่จะเป็น Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions และกระแสโลกเรื่อง Climate Change เป็นเรื่องที่สำคัญมากและทุกคนต้องลงมือแก้ปัญหานี้ด้วยกัน

โดยเฉพาะภาคธุรกิจ เป็นภาคส่วนที่มีศักยภาพในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ กลุ่มเซ็นทรัล จึงมีความต้องการที่จะซื้อคาร์บอนเครดิตมาชดเชยในการจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆ โดยผู้เข้าร่วมโครงการ สามารถนำ Carbon Credit 1 ตันคาร์บอน มาแลกเป็นคะแนน The 1 ได้ 1,600 คะแนน เพื่อนำไปเป็นส่วนลดสินค้าและบริการ รวมถึงรับสิทธิประโยชน์ในกลุ่มเซ็นทรัลทั่วประเทศ และกลุ่มเซ็นทรัลมีความมุ่งหวังการเติบโตของธุรกิจจะต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน

และตระหนักว่าต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทางของห่วงโซ่อุปทานตลอดจนถึงปลายทางของการจัดการอย่างถูกหลัก โดยหนึ่งในเป้าหมายคือการปรับเปลี่ยนหันมาใช้พลังงานสะอาดและยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจ ทั้งยังช่วยลดปัญหามลพิษด้วยพลังงานสะอาด และสอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของโลก

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเสนาฯ ถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่เริ่มสร้างบ้านพร้อมติดโซลาร์รูฟให้พร้อมใช้งานตั้งแต่ซื้อบ้านทั้งโครงการเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ขณะนั้นมองว่า การใช้พลังงานทดแทนคือเทรนด์ของอนาคต ที่นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของลูกบ้านแล้ว ยังลดการสร้างคาร์บอนที่เป็นต้นเหตุของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ทั้งนี้สิ่งที่เสนาให้ความสำคัญคือการพัฒนาโครงการและสนับสนุนการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ

ด้านการใช้พลังงานทดแทนที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการลดคาร์บอนขององค์กร โดยเฉพาะการนำแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy Housing) ซึ่งสามารถประหยัดการใช้ไฟฟ้าของบ้านได้สูงสุดถึง 38% และการส่งเสริม Decarbonized Lifestyle ให้ลูกบ้านสามารถใช้ชีวิตรักษ์โลกได้ง่ายๆ เพียงอยู่กับเราเท่านั้น ปัจจุบันเสนาติดตั้งโซลาร์รูฟให้กับลูกบ้าน ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมแล้วทั้งหมดทุกโครงการรวมกว่า 1,000 หลัง

สำหรับ ความร่วมมือในครั้งนี้ลูกบ้านเสนาที่ติดโซลาร์ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ โดยปริมาณคาร์บอนเครดิตที่เกิดขึ้นจะสามารถนำไปแลกคะแนนเพื่อใช้เป็นส่วนลดหรือซื้อของต่อไปได้ เช่น ลูกบ้านที่ติดตั้งโซลาร์ 5kw คาร์บอนเครดิตจะถูกคำนวณและสามารถเปลี่ยนเป็นคะแนน The 1 ได้ 600 คะแนนต่อเดือน หรือ 7,200 คะแนนต่อปี

โดยในเบื้องต้นตั้งเป้าว่า จะมีลูกบ้านเข้าร่วมโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 300 หลังคาเรือน ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณโครงการดีๆ ที่ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงให้โอกาสทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : มูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน. คุณอัญชลี แดงโรจน์ โทร 092-532-2241 E Mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

QIC 720x100

TOA 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

AXA 720 x100 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!