หมวดหมู่: มติ ครม.

Gov 18


การดำเนินงานโครงการ ‘โคแสนล้าน’ นำร่อง

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง กรอบวงเงินสินเชื่อจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 5,000 ล้านบาท ในส่วนอัตราดอกเบี้ยและรายละเอียดอื่นที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามมติ กทบ. ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 โดยรัฐชดเชยต้นทุนทางการเงินให้กับ ธ.ก.ส. ในระยะเวลา 2 ปีอัตราร้อยละ 4.5 ต่อปี และให้ ธ.ก.ส. เป็นหน่วยงานตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดเชยอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น จำนวน 450 ล้านบาท (ปีละ 225 ล้านบาท) ตามที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) เสนอ

          เรื่องเดิม

          คณะรัฐมนตรีมีมติ (19 มีนาคม 2567) เห็นชอบในหลักการโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงการคลังร่วมกับ กทบ. ธ.ก.ส. สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อพิจารณารายละเอียดของแนวทางการดำเนินโครงการนี้ในประเด็นต่างๆ ให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจนและเหมาะสม (เช่น อัตราดอกเบี้ยที่รัฐต้องรับภาระชดเชย กรอบวงเงินงบประมาณที่ต้องใช้สำหรับการดำเนินโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง และการกำหนดระยะเวลาที่เกษตรกรจะต้องชำระคืนเงินกู้ให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่เกษตรกรจะคืนทุนจากการเลี้ยงโค) โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง (กค.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) สำนักงบประมาณ (สงป.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้นำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งก่อนดำเนินการต่อไป

          สาระสำคัญของเรื่อง

          กทบ. รายงานว่า

          1. ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติวันที่ 19 มีนาคม 2567 รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้ลงนามคำสั่งคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติที่ 6/2567 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2567 แต่งตั้งคณะทำงานดำเนินโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง (คณะทำงานฯ) โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เป็นประธานคณะทำงานฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นรองประธานคณะทำงานฯ และผู้อำนวยการ สทบ. เป็นคณะทำงานฯ และเลขานุการ

          2. คณะทำงานฯ ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 ได้พิจารณาแนวทางการดำเนินงาน งบประมาณ และกรอบระยะเวลาในการดำเนินโครงการฯ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ภาครัฐต้องรับภาระชดเชย ตลอดจนความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งจากการประชุมดังกล่าวมีการปรับรายละเอียดการดำเนินงานโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่องสรุปดังนี้

              2.1 ดำเนินการภายใต้กรอบวงเงินสินเชื่อของ ธกส. กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยให้สินเชื่อแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กองทุนหมู่บ้านฯ) สำหรับให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (สมาชิกกองทุนฯ) กู้ยืมเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงโค จำนวน 100,000 ครัวเรือน (ครัวเรือนละ 50,000 บาท) และรัฐชดเชยดอกเบี้ยให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในอัตราดอกเบี้ย 4.50 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี (ปีละ 225 ล้านบาท รวม 2 ปี 450 ล้านบาท) โดยให้ ธ.ก.ส. ตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดเชยดอกเบี้ยต่อไป

              2.2 กลุ่มเป้าหมาย กองทุนหมู่บ้านฯ ที่มีประวัติการกู้เงินและชำระเงินดี โดยเคยกู้เงิน ธ.ก.ส. ธนาคารออมสิน หรือธนาคารอื่นๆ แล้วชำระหนี้ได้

              2.3 วัตถุประสงค์โครงการ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ครัวเรือนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ลดภาระค่าครองชีพให้กับครัวเรือนสมาชิก ยกระดับการผลิตโคเนื้อที่มีคุณภาพสูงสู่ตลาดภายในและต่างประเทศ ส่งเสริมการตลาด ขยายโอกาสทางการค้า เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน สร้างความมั่นคงทางอาหาร และให้สมาชิกเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาทักษะด้านอาชีพการเลี้ยงโคคุณภาพสูง

              2.4 ประเภทสินเชื่อและระยะเวลา เป็นสินเชื่อระยะยาว ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี โดยให้กองทุนหมู่บ้านฯ เป็นตัวแทนยื่นเสนอขอรับสนับสนุนสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. ในฐานะนิติบุคคลตามแนวทางที่กำหนด โดยให้สมาชิกกองทุนฯ ยื่นความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการกับกองทุนหมู่บ้านฯ จากนั้นกองทุนหมู่บ้านฯ พิจารณาคุณสมบัติของสมาชิกกองทุนฯ ตามระเบียบ ข้อบังคับของกองทุนหมู่บ้านฯ และยื่นขอสินเชื่อโครงการฯ กับ ธ.ก.ส. ในนามกองทุนหมู่บ้านฯ

              2.5 กทบ. ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินการ ดังนี้

                    2.5.1 แผนการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยที่ ธ.ก.ส. เรียกเก็บกับกองทุน หมู่บ้านฯ

 

ปีที่

ต้นเงิน

(50,000 บาทต่อครัวเรือน)

(บาท)

ดอกเบี้ย (ร้อยละ/ปี)

1

ยังไม่ต้องชำระคืนต้นเงิน

รัฐชดเชย 4.50

2

รัฐชดเชย 4.50

3

กองทุนหมู่บ้านฯ ชำระดอกเบี้ย

ให้ ... ในอัตราร้อยละ 4.50 ต่อปี

4

25,000

5

25,000

 

                    กรณีผิดนัดชำระหนี้ปีที่ 4 - 5 ธ.ก.ส. จะเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยปกติสูงสุดตามที่เรียกเก็บจริงบวกเพิ่มอีกร้อยละ 3 ต่อปี และหากสิ้นสุดระยะเวลาโครงการฯ แล้ว ไม่สามารถส่งชำระหนี้ต้นเงินกู้ตามที่ ธ.ก.ส. กำหนด ให้เรียกดอกเบี้ยสำหรับต้นเงินส่วนที่มิได้ชำระตามกำหนดนั้นในอัตรา MLR บวก Risk Premium1 บวกเพิ่มอีกร้อยละ 3 ต่อปี จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น (อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอยู่ระหว่าง ธ.ก.ส. นำเสนอคณะกรรมการ ธ.ก.ส.)

                    2.5.2 การพิจารณาสินเชื่อใช้เกณฑ์คุณภาพในการประเมินศักยภาพ และวิเคราะห์ความเสี่ยงของกองทุนหมู่บ้านและสมาชิกผู้กู้

                    2.5.3 การดำเนินโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่อง จะดำเนินโครงการต่อไปได้ต่อเมื่อคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอโครงการฯ ที่ กทบ. เสนอต่อ ครม. แล้ว

              2.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ยกระดับการผลิตของเกษตรกรรายย่อยและเอกชน ให้สามารถเลี้ยงโคเนื้อเชิงอุตสาหกรรมตอบสนองต่อการบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ สร้างรายได้เพิ่มลดความยากจนของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ได้อย่างน้อย 120,000 บาท ในระยะเวลา 5 ปี ต่อแม่โค 1 ตัว ดังนี้

 

ลำดับที่

รายละเอียด

รายได้จากการขายโค (บาท)

1

แม่โคปลด

18,000

2

โค 1 ปี

20,000

3

โค 2.5 ปี

25,000

4

โค เพิ่งคลอด

7,000

5

โค 4 ปี

20,000

6

โค เพิ่งคลอด

7,000

7

โค 2 ปี ตั้งท้อง 3 เดือน

23,000

รวม

120,000

 

              ทั้งนี้ จำนวนโคที่คาดว่าจะสามารถทำให้สมาชิกกองทุนฯ ชำระคืนเงินกู้ได้ในอนาคต คือ การเลี้ยงแม่โค 2 ตัว ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยง กรณีเกิดความเสียหายกับโคที่สมาชิกนำมาเลี้ยง อีกทั้ง ในช่วงเวลา 1 ปีแรกของการเลี้ยงแม่โคซึ่งได้รับการผสมเทียมจะตกลูกอย่างน้อย 1 ตัว และหากเป็นลูกโคตัวผู้ สมาชิกกองทุนฯ อาจเลี้ยงเพื่อจำหน่ายในปีที่ 3 ราคาประมาณตัวละ 20,000 - 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของโค ซึ่งในปีที่ 3 สมาชิกกองทุนฯ ต้องชำระคืนเงินดอกเบี้ยให้กับกองทุนหมู่บ้านฯ หรือหากเป็นโคตัวเมีย ผู้เลี้ยงโคอาจเก็บไว้เป็นแม่พันธุ์สำหรับการผสมเทียมในปีถัดไปได้ นอกจากนี้ สมาชิกกองทุนฯ ยังมีรายได้จากการจำหน่ายมูลโคแห้ง ประมาณ 6,000 บาทต่อตัว อย่างไรก็ตามสมาชิกกองทุนฯ ที่เลี้ยงโคจะสามารถจำหน่ายโคได้ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป

              2.7 การติดตามประเมินผล กทบ. สทบ. ธ.ก.ส. กระทรวงพาณิชย์ กรมปศุสัตว์ และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องจะติดตามประเมินผลเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส โดยให้ ธ.ก.ส. รายงานข้อมูลกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ยื่นขอรับการสนับสนุนงบประมาณและผลการอนุมัติงบประมาณของ ธ.ก.ส.

          3. กทบ. ในคราวประชุมครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบรายละเอียดการดำเนินงานโครงการ “โคแสนล้าน” นำร่องตามมติคณะทำงานฯ (ตามข้อ 2) และมอบหมายให้ สทบ. นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

______________________________

1 ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 6.125 ส่วน Risk Premium นั้น ธ.ก.ส. แจ้งว่ากำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 2 ขึ้นอยู่กับประวัติการชำระหนี้ของแต่ละกองทุน หากกองทุนที่มีประวัติการชำระหนี้ดี ธ.ก.ส. จะไม่คิดค่า Risk Premium

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 18 เมษายน 2567

 

 

4551

Click Donate Support Web 

AXA 720 x100

Banner GPF720x100 PX

MTL 720x100

kbank 720x100 66

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

QIC 720x100

gen 720x100

CKPower 720x100

TOA 720x100

SME 720x100 66

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!